What is Purchasing .
งานจัดซื้อ เป็นหนึ่งส่วนของ Logistic
System วงการอุตสาหกรรม รู้กันอยู่แล้วว่า
ในทุกธุรกิจจำเป็นต้องมี Logistic
System ในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางธุรกิจ และการที่ธุรกิจจะขับเคลื่อนได้ดี งานจัดซื้อ
ก็เป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญมาก แล้ว งานจัดซื้อ เป็นอย่างไร ? ถึงได้มีความสำคัญ
ที่อยากจะเขียนเรื่องนี้ก็เพราะว่า ช่วงปีนี้ (2021)
จะมีหัวข้ออบรมชื่อแปลกๆ ที่เกี่ยวงานจัดซื้อมาให้ผม และการที่จะตอบสนองความต้องการได้อย่างถูกต้อง
ผมเลยต้องทำ Course Outline ขึ้นมา
เพื่อนำเสนอ ว่าสิ่งที่เขาต้องการนั้น จะมีเนื้อหาตามนี้หรือไม่ ?
ผมก็เลยคิดว่า
ความต้องการที่จะอบรมเรื่องงานจัดซื้อ ให้กับบุคลากรในหน่วยงานจัดซื้อ / จัดหา
ควรจะต้องสอดคล้องกับรูปแบบการทำงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานจัดซื้อ
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน ขอยกตัวอย่าง
งานจัดการคลังสินค้า
คุณควรจะเป็นหน้าที่ให้หน่วยงานใดดูแล !
ก็สามารถตอบได้ 2 หน่วยงานครับ ก็คือ ฝ่ายคลังสินค้า
หรือฝ่ายบัญชี
(ถ้าตอบว่าฝ่ายบัญชี ก็แสดงเป็นองค์กรขนาดเล็ก
แต่ถ้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ก็ต้องมีหน่วยงานเฉพาะเจาะจงมาดูแล แน่นอนก็ต้องเป็น
ฝ่ายคลังสินค้า (หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Store)
แต่ถ้าเราทำความเข้าใจในเชิงลึกต่อไป
งานจัดการคลังสินค้า ก็คือ การบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory management)การบริหารจัดการคลังสินค้า
ผมจะแบ่ง 2 ส่วน คือ
1. ส่วนของการดูแลคลังสินค้า
เป็นงานที่ดูแลความเรียบร้อย จัดเก็บรักษา เบิกจ่าย ที่เรียกว่าเป็น Physical Management ก็ต้องมีความรู้
เช่น Shelf life / First in First
out คนที่สมควรดูแลในส่วนนี้ ก็ต้องฝ่ายคลังสินค้าละครับ
2. แล้วส่วนที่
2 ก็คือ
การควบคุมปริมาณสินค้าคงคลัง (Inventory Control) ซึ่งจะมีเรื่องของการบริหารจัดการเชิงตัวเลข
และมูลค่า ให้เหมาะสมกับการใช้ การเบิก การเก็บ และอื่นๆ แน่นอนจะต้องรู้เรื่อง Lead time ของทุกกระบวนการด้วย เช่น สินค้าระหว่างผลิต (Work in
Process or Semi Product) / สินค้าสำเร็จรูป (Finish Product) / วัตถุดิบคงคลัง
(Material Stock)
ถ้าถามว่าในส่วนที่เป็น Material
Stock ใครควรจะผู้ดูแล คุณอาจตอบว่า Store or Planning ก็ได้
แต่จริงๆแล้ว
คนที่สามารถจะดูแลได้ดีที่สุดก็คือ คนที่มีข้อมูลที่เรียกว่า Purchasing Parameters ซึ่งได้แก่ Order
Lead time / Min Order / Material Cost
คำตอบจะกลายเป็น ฝ่ายจัดซื้อ เป็นผู้ดูแลก็ได้ครับ ใช่มั้ยครับ !
หมายเหตุ : ที่ผมให้ความเห็นแบบนี้
เพราะตอนที่ผมรับผิดชอบงานจัดซื้อ ผมต้องกำหนด Purchasing Parameters ลงใน Package Program เพื่อให้โปรแกรมคำนวณ
จำนวนของวัตถุดิบ ที่ต้องใช้ และเวลาที่ต้องการใช้ แล้วเอาข้อมูลนั้นไปออกใบสั่งซื้อ
(Purchase Order) ซึ่งการจะใส่ Parameter ต่างๆลงไป จำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องของMRP
/ ERP / Separate shipment / Re-order
point และ ใครจะเข้าใน Purchasing Parameters ได้ดีที่สุด ก็ต้องคนซื้อนั้นล่ะ
!
ที่เกรินมายาว ก็เพื่อจะมาแนะในรายละเอียดของ
งานจัดซื้อ ว่าควรจะต้องมีขอบข่าย ในเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้คนในงานจัดซื้อได้รู้
และรับผิดชอบให้ได้
A.
ผมจะแบ่งงานจัดซื้อออกเป็น 3 ส่วนงาน
1. งานจัดซื้อ (Purchasing Job) เป็นงาน Daily job ที่ได้แก่
การออกใบสั่งซื้อ / การติดตามการสั่งซื้อ / การทำ Forecast Order /การกำหนด
Parameter เพื่อระบบ MRP or ERP / การบริหารจัดการ
ในเรื่องต่างๆ เช่น Claim / Supplier Evaluation
2. งานจัดหา (Procurement Job) เป็นงานด่านหน้าเพื่อการจัดซื้อ
ก็คือ การเป็นผู้เข้าไปทำ การคัดเลือก / เจรจาต่อรอง / ทำข้อตกลง เมื่อสรุปได้แล้ว
ก็จะโอนข้อมูลทั้งหมด ไปให้ส่วนงานจัดซื้อไปดำเนินการต่อ พูดได้ว่า งานจัดหา คือ ขั้นกว่าของงานจัดซื้อ
3. ธุรกิจระหว่างประเทศ (International
Trade) หรือ การค้าขายระหว่างประเทศ นั้นว่าเรื่อง
ข้อกำหนดที่เป็นสากล ที่หอการค้านานาชาติ (International Chamber of
Commerce : ICC) ที่ได้กำหนดขึ้นมา
เพื่อใช้ในการทำข้อตกลงทางการค้า เช่น Trade
Terms or Terms of Delivery (Incoterm) /
Payment Rules / Currency / Exchange rate / other ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมดนี้
จะมีองค์กรและสมาคมการค้า ต่างๆเข้ามาร่วมกันใช้
เช่น ธนาคาร / สายเดินเรือ / สายการบิน / บริษัทประกันภัย /
บริษัทที่บริการด้านการขนส่ง และหน่วยงานของรัฐ
ซึ่งภาครัฐและเอกชน บนโลกนี้ จะใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
ถ้าในองค์กรไหนมีการซื้อสินค้าและบริการจากต่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ ในส่วนของการ จัดซื้อและจัดหา จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่อง
ธุรกิจระหว่างประเทศ (International Trade) ด้วยมันไม่ใช่แค่เรื่อง การนำเข้าสินค้า
(Import) ซึ่งจะต้องรู้ที่มากกว่านั้น
ยกตัวอย่าง ใน class เรียนของผม
ที่ชื่อว่า นักจัดซื้อ..ต่างประเทศ
(Oversea Purchaser) นั้น
ผมได้เอาธุรกิจระหว่างประเทศมาผสมกับ การงานจัดซื้อ / จัดหา โดยการเอาเรื่อง FTA / Tax Privilege / Currency / Payment
Term / Terms of Delivery /Shipping Document ใส่เข้าไปในงานจัดซื้อ / จัดหา ด้วย
เพื่อให้พวกเขาสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้เลย
B.
คราวนี้ถ้าเราอยากจะพัฒนาทีมจัดซื้อ /
จัดหา เราควรจะพัฒนาในเรื่องอะไรบ้าง
ผมจะแยกเป็น ตามลำดับชั้นของงาน (Job
Level)
Level # 1 จะเป็นงานจัดซื้อ (Purchasing Job) : จะต้องมีความรู้เรื่องอะไรบ้าง
>หลักการ และแนวคิดเพื่องานจัดซื้อ :
แน่นอนทำงาน แบบไม่มีแบบแผน และแนวคิดที่ถูกต้อง ยากที่จะประสบความสำเร็จ
> เนื้องานที่จัดซื้อต้องทำ :
หน้าที่หลักของงานจัดซื้อ ว่ามีอะไร (เราไม่ได้ทำตามที่ ISO กำหนด
หรือตามนโยบายของบริษัทฯเท่านั้น แต่เราต้องรู้ด้วยว่างานของเราคือ อะไร
> เครื่องมือในการทำงาน
: แน่นอนเรารู้ว่างานของเราคืออะไร
เราต้องหา และออกแบบเครื่องมือมาเพื่อมาใช้ในการทำงานของเรา
ใน Level
#1 นี้ ผมจะมี Class เรียนที่ชื่อว่า นักจัดซื้อ..มืออาชีพ
(Professional Purchaser) ซึ่งเหมาะสำหรับ
ผู้ที่เพิ่มเริ่มต้น หรือ ยังไม่เคยได้รับการอบรมงานจัดซื้อมาก่อน
Level #2 จะเป็นขั้นกว่า ที่เกี่ยวข้องกับ งานจัดหา (Procurement
Job) การที่จะทำงานจัดหาได้ จะต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง
> การค้นหา / การคัดเลือก / การตรวจประเมิน /
การทำข้อตกลง.. (Sourcing
/Selection/Assessment / Agreement) : กระบวนการทั้งหมดนี้ เพื่อการจัดหา New Supplier
& New Material
> การเจรจาต่อรอง
และการทำข้อตกลง : ถ้าจนท จัดซื้อ คนไหน สามารถทำเรื่องนี้ได้ ก็สามารถจะช่วยเหลืองาน
ของผู้จัดการได้ แน่นอนการทำเรื่องนี้ได้ จะต้องมีแนวคิด และหลักการที่ถูกต้อง
>การวิเคราะห์ต้นทุนและราคา
: นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าทำไม่ได้
ผู้ปฏิบัติงานจัดซื้อ จะตอบคำถามกับผู้บริหารได้อย่างไร
Level # 3 การจัดซื้อ / จัดหา ต่างประเทศ : เป็นการจัดซื้อในรูปแบบที่เพิ่มเติมจากการจัดซื้อภายในประเทศ
ซึ่งได้แก่
>International Trade (ธุรกิจระหว่างประเทศ) จะต้องมีความเข้าใจในข้อกำหนดต่างๆที่เป็นสากล
>Applying / Caution
: การนำเงื่อนไขต่างๆมาปรับใช้ในการจัดซื้อ
และจัดหา และต้องรู้ถึงข้อควรระวังต่างๆ (เพราะเราผิดพลาดบ่อยๆไม่ได้)
Level # 4 Purchasing
Development : การพัฒนางานจัดซื้อ
ให้เกิดความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
โดยเอาความรู้จากทั้ง 3 งาน (งานจัดซื้อ และงานจัดหา
การทำธุรกิจระหว่างประเทศ)
เอามาสร้างรูปแบบ เพื่อเพิ่ม ศักยภาพเพื่อการแข่งขัน / เพื่อการแก้ไขปัญหา
/ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ / เพื่อลดต้นทุน
ทั้งหมดนี้
น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการจัดซื้อนะครับ
Cr. อ.อนันต์ วชิราวุฒิชัย (Tangram
Strategic Consultant)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Comments
Post a Comment